เมื่อท่านต้องกำหนดขอบเขตของการประเมิน /การจัดทำบัญชีของก๊าซเรือนกระจก คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO)

reader 219 Views
  • ต้องรู้ก่อนว่า ท่านจะทำการรายงานผ่านมาตรฐานใด เช่น  ISO 14064-1 : 2018 / GHG Protocol หรือ CFO ของ อบก เพื่อให้กำหนดขอบเขต ได้ถูกต้องตามมาตรฐาน

                                              ตารางขอบเขตของแต่ละมาตรฐาน  

          ISO 14064-1 : 2018

GHG Protocol

CFO (อบก)

Category 1 : Direct GHG emissions and removals
การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกทางตรงขององค์กร 

Scope 1 : Direct GHG emissions and removals
การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกทางตรงขององค์กร 

Scope 1 : Direct GHG emissions and removals
การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกทางตรงขององค์กร 

Category 2 : Indirect GHG emissions from imported energy
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน 

Scope 2 : Energy indirect GHG emissions
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน 

Scope 2 : Energy indirect GHG emissions
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน 

Category 3 : Indirect GHG emission from transportation
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม จากการขนส่ง

Scope 3 : Other indirect GHG emissions การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ

3.1 Purchased goods and service
วัตถุดิบตั้งต้นและบริการที่ซื้อมา
3.2 Capital goods
อุปกรณ์ประกอบธุรกิจ
3.3 Fuel- and energy related activities (not  include in scope 1 or scope 2)
กิจกรรมการใช้พลังงานอื่นนอกเหนือจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (ไม่รวมใน ขอบข่ายที่  1 หรือ 2)
3.4 Upstream transportation and distribution 
การขนส่งจากผู้ผลิตวัตถุดิบ
3.5 Wasted generated in operations 
ของเสียจากกิจกรรมในองค์กร
3.6 Business travel
การเดินทางที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขององค์กร 
3.7 Employee Commuting 
การเดินทางติดต่อของพนักงาน
3.8 Upstream leased assets 
สินทรัพย์ที่เช่ามาในส่วนต้นทาง
3.9 Downstream transportation and distribution
การขนส่ง และการกระจายสินค้า
3.10 Processing of sold products
การใช้งานของผลิตภัณฑ์
3.11 Use of sold products
การใช้งานของผลิตภัณฑ์
3.12 End-of -life treatment of sold products 
การกำจัดซากผลิตภัณฑ์
3.13 Downstream leased assets
สินทรัพย์ที่เช่ามาหลังผ่านการผลิตขององค์กร
3.14 Franchises   
แฟรนไชส์
3.15 Investments 
การลงทุน 

ประเภทที่  3 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ
( Other indirect emission )

3.1 กิจกรรมการใช้พลังงานอื่นนอกเหนือจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทางอ้อมจากการใช้พลังงาน
3.2 วัตถุดิบตั้งต้นที่ซื้อมา
3.3 อุปกรณ์ประกอบธุรกิจ
3.4 ของเสียจากกิจกรรมในองค์กร
3.5 การขนส่งจากผู้ผลิตวัตถุดิบ
3.6 การเดินทางที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขององค์กร 
3.7 องค์กรสัมปทานในส่วนต้นทาง
3.8 สินทรัพย์ที่เช่ามาในส่วนต้นทาง
3.9 การลงทุน 
3.10 การเดินทางของลูกค้าและผู้ที่มาติดต่อ
3.11 การขนส่ง และการกระจายสินค้า
3.12 การใช้งานของผลิตภัณฑ์
3.13 การกำจัดซากผลิตภัณฑ์
3.14 องค์กรสัมปทานหลังผ่านการผลิตขององค์กร 
3.15 สินทรัพย์ที่เช่ามาหลังผ่านการผลิตขององค์กร 
3.16 การเดินทางติดต่อของพนักงาน
3.17 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ

Category 4 : Indirect GHG emission from products used by an organization
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากผลิตภัณฑ์ที่องค์กรใช้

 

 

Category 5 : Indirect GHG emissions associated with the use of product from organization
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้ผลิตภัณฑ์ขององค์กร

 

 

Category 6 : Indirect GHG emissions from other sources
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากแหล่งอื่น

 

 

 

  • หลังจากนั้น ก็ลงรายละเอียดแต่ละขอบเขต ว่า องค์กรท่านมีการปล่อยก๊าซ หรือ ดูดกลับของก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตนั้นหรือไม่   เช่น 

ประเภทที่  1 การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกโดยตรงขององค์กร  (Scope 1 : Direct GHG emission and removals )
การปล่อยและดูดกลับ ก๊าซเรือนกระจก  GHG โดยตรงเกิดขึ้นจากแหล่ง GHG หรือแหล่งกักเก็บภายในขอบเขตขององค์กร และที่องค์กรเป็นเจ้าของหรือควบคุม  แหล่งเหล่านี้สามารถเป็นแบบ อยู่กับที่ เช่น เครื่องทำความร้อน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า กระบวนการทางอุตสาหกรรม) หรือ แบบเคลื่อนที่ (เช่น ยานพาหนะ)

  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเผ่าไหม้ แบบอยู่กับที่ ซึ่งเป็นผลมาจากการเผาไหม้ใดๆ ของ

ประเภทของเชื้อเพลิง (ฟอสซิลหรือชีวมวล) ที่ถูกเผาไหม้ในอุปกรณ์ที่อยู่กับที่ เช่น เครื่องทำความร้อน กังหันก๊าซ
หม้อต้มไอน้ำ ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าว สามารถผลิตความร้อน งานเครื่องกล และไอน้ำได้

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับชนิดของเชื้อเพลิง

  • การเผ่าไหมเชื้อเพลิงจาก เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ   

           ข้อมูลอ้างอิง https://ngthai.com/science/26108/fossil-fuel/

  • การเผ่าไหมเชื้อเพลิงจาก เชื้อเพลิง ชีวมวล

ชีวมวล (Biomass) เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานของพืชที่ต้องอาศัยแสงอาทิตย์ในการสังเคราะห์แสงและเจริญเติบโต      จากนั้นแปรเปลี่ยนสภาพเป็นของแข็งหรือแปรสภาพเป็นของเหลวที่สามารถนำมาใช้
มีแหล่งที่มาได้ 2 แหล่งคือ

  • เศษวัสดุเหลือใช้จาก การเก็บเกี่ยวหรือจากการแปรรูปสินค้าทางการเกษตรที่สามารถนำมาใช้เชื้อเพลิงเพื่อผลิตพลังงานได้
  • และจากการปลูกพืชเพื่อนำมาใช้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงผลิตพลังงานโดยเฉพาะ

ข้อมูลอ้างอิง https://biomass.dede.go.th/biomass_web/index.html

  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดการเผาไหม้แบบเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นผลมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงในการขนส่ง อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ยานยนต์ รถบรรทุก เรือ เครื่องบิน ตู้รถไฟ รถโฟล์คลิฟท์ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางในยานพาหนะที่ไม่รวมอยู่ในขอบเขตองค์กรที่ต้องมีการรายงานว่าเป็น "การปล่อยก๊าซทางอ้อม" ที่เกิดจากการเดินทางเพื่อธุรกิจ การเดินทางของพนักงาน ลูกค้า หรือ การคมนาคมของผู้มาเยือน ทรัพย์สินให้เช่าต้นน้ำ ฯลฯ
  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกโดยตรงจากกระบวนการผลิต 

ตัวอย่างอุตสาหกรรม เช่น  การผลิตปูนซีเมนต์และปูนขาว การผลิตสารเคมี การผลิต การกลั่นน้ำมันและก๊าซ และกระบวนการไม่เผาไหม้ที่เกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยง การทดแทน การทำลาย การสลายตัวหรือการบรรเทาของ
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอุตสาหกรรม (เช่น N2O) และกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการจับและกักเก็บคาร์บอน (เช่น ระบบการจับสารละลายเอมีน)

  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากการรั่วไหลของกิจกรรมจากมนุษย์  (Anthropogenic system)
  •  

การรั่วไหลโดยตรง

  • อาจมาจากระบบที่ สกัด แปรรูป จัดเก็บ และส่งมอบ เชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น หน้าแปลน วาล์ว ข้อต่อรวม  และการเชื่อมต่อแบบเกลียว)
  • จากการรั่วไหลของอุปกรณ์ (เช่น ระบบทำความเย็น)
  • จากกระบวนการทางการเกษตร (เช่น การเน่าเปื่อยและการหมัก ปุ๋ยคอก ปศุสัตว์ การใช้ไนโตรเจน ปุ๋ย)
  •  จากการย่อยสลายของเสียที่ไม่สามารถควบคุมได้จากแหล่งต่างๆ เช่น ที่ดิน สิ่งอำนวยความสะดวก การทำปุ๋ยหมัก การบำบัดน้ำเสีย และกระบวนการจัดการของเสียอื่น ๆ

การรั่วไหล หรือ การระบายโดยตรงโดยไม่ได้ตั้งใจหรือโดยเจตนา

  • การปลดปล่อย CH4 หรือ CO2 ที่ได้รับการออกแบบ ที่มีก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซไฮโดรคาร์บอน (ไม่รวมถึงการเผาไหม้คงที่ของก๊าซไอเสีย คือ ก๊าซที่ออกสู่ชั้นบรรยากาศโดยทางปล่องควันซึ่งเป็นท่อหรือช่องทางสำหรับลำเลียงก๊าซไอเสีย เช่น จากเตาผิง เตาอบ เตาเผา หม้อต้มน้ำ หรือเครื่องกำเนิดไอน้ำ  ) ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ผ่านการซีล หรือท่อระบายอากาศ
  • อุปกรณ์สำหรับการบำรุงรักษา และการระบายก๊าซที่ใช้จ่ายไฟโดยตรง อุปกรณ์ (เช่น อุปกรณ์เกี่ยวกับลม)
  • การกลับรายการโดยเจตนาในการกำจัดคาร์บอน เช่น การเผาเพื่อป้องกันป่าในอนาคต ถูกวัดปริมาณเป็นการปล่อยก๊าซชีวภาพจากมนุษย์ (การกำจัดเชิงลบ)
  • การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกโดยตรงจาก จากการใช้ที่ดิน การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและป่าไม้ (LULUCF) ซึ่งครอบคลุมก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด
  • ตั้งแต่ชีวมวลที่มีชีวิตไปจนถึงอินทรียวัตถุในดิน ตามแนวทางของ IPCC[15]
  • การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถประเมินได้ใน 6 หมวดการใช้ที่ดินหลัก (พื้นที่ป่าไม้ พื้นที่เพาะปลูก ทุ่งหญ้า พื้นที่ชุ่มน้ำ การตั้งถิ่นฐาน ที่ดินอื่นๆ)
  • และแหล่งกักเก็บคาร์บอนหลายแห่ง (สิ่งมีชีวิตต่อหน่วยพื้นที่เหนือพื้นดิน ชีวมวลใต้ดิน ท่อนไม้ เศษใบไม้ สารอินทรีย์ในดิน)
  • การเปลี่ยนแปลงของปริมาณคาร์บอน สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อการใช้ที่ดินเปลี่ยนจากประเภทหนึ่งไปอีกประเภทหนึ่ง (เช่น การแปลงป่าไม้เป็นพื้นที่เพาะปลูก) หรืออยู่ในหมวดหมู่การใช้ที่ดิน (เช่น การแปลงป่าธรรมชาติให้เป็นป่าที่ได้รับการจัดการ การแปลงสภาพจากจนถึงไม่จนถึง)
  • การกำจัดเกิดขึ้นเมื่อมีปริมาณกักเก็บคาร์บอนในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นการปล่อยมลพิษจะเกิดขึ้นเมื่อมีการลดลงและเมื่อมีการปล่อย N2O
  • ตัวเลือกสำหรับวิธีการเชิงปริมาณ: การปล่อย CO2e ที่เกี่ยวข้องกับ LULUCF เกิดขึ้นหลังจากมีการดำเนินการซึ่งก่อให้เกิดความแตกต่างในการกักเก็บคาร์บอนในช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากการดำเนินการนี้โดยทั่วไปกำหนดไว้เป็น 20 ปี ดังนั้น องค์กรอาจคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ (ผลต่างกักเก็บคาร์บอนทั้งหมด) หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประจำปี (1/20 ของทั้งหมดส่วนต่างของการเก็บกักคาร์บอน) หากเลือกตัวเลือกที่ 2 ควรรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก “ในแต่ละครั้ง”ในช่วงระยะเวลา 20 ปี

 

ประเภทที่  2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน  (Scope 2 : Energy indirect GHG emissions)

  • จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่เกี่ยวข้องกับการผลิตของพลังงานและสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ความร้อน ไอน้ำ ความ  เย็น และอากาศอัด
  • โดยไม่รวม การปล่อยก๊าซต้นน้ำทั้งหมด (จาก ต้นกำเนิด ไปจนถึง โรงไฟฟ้า) ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิง การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเนื่องจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จัดสรรให้กับการสูญเสียจากการขนส่งและการจำหน่าย

ตัวอย่างการจัดหมวดหมู่ย่อยและการระบุแหล่งที่มาและแหล่งเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

  • a) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากไฟฟ้านำเข้า รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและ   ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่องค์กรนำเข้า
  • b) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากพลังงานนำเข้า รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานที่องค์กรใช้ผ่านเครือข่ายทางกายภาพ (ไอน้ำ, การทำความร้อน, การทำความเย็นและอากาศอัด) ไม่รวมไฟฟ้า  

ข้อมูลอ้างอิงจาก มตช.14064-1 : 2018 Annex B
ประเภทที่  3 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ  ( Other indirect emission ) ตามแต่ละการแบ่งประเภทของมาตรฐานที่ต้องรายงาน  เช่น ISO14064-1 : 2018 หรือ  GHG Protocol /CFO ของ อบก

  • การประเมินขอบเขต  ว่าอะไรบ้างที่ต้องรายงาน ?  ตาม   Category 6 : Indirect GHG emissions from other sources  การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากแหล่งอื่น ของ ISO14064-1 : 2018 หรือ  GHG Protocol /CFO ของ อบก. ในขอบเขตที่  3

เกณฑ์การประเมินแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (ประเภท ที่  3 )   ให้องค์กรดำเนินการพิจารณาดังนี้ 

 

ขอบเขต
category

แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก
Source of GHG

ปริมาณGHG
Size

ความสามารถในการตรวจติดตามและลดปริมาณการปล่อยหรือดูดกลับ
Level of influence (reduction of potential)

ความเสี่ยงที่องค์กรได้รับหรือโอกาสทางธุรกิจต่างๆ
Risk or Opportunity

ข้อกำหนดของแนวทางที่เฉพาะเจาะจงสำหรับอุตสาหกรรมนั้นSector Guidance

การจัดจ้างบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกOutsourcing

พนักงานมีส่วนร่วมในการปล่อย GHG
Employee engagement

3.1Purchased goods and service
วัตถุดิบตั้งต้นและบริการที่ซื้อมา

 

 

 

 

 

 

 

3.2 Capital goods
อุปกรณ์ประกอบธุรกิจ

 

 

 

 

 

 

 

3.3Fuel- and energy related activities (not  include in scope 1 or scope 2)
กิจกรรมการใช้พลังงานอื่นนอกเหนือจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (ไม่รวมใน ขอบข่ายที่  1 หรือ 2)

 

 

 

 

 

 

 

3.4 Upstream transportation and distribution 
การขนส่งจากผู้ผลิตวัตถุดิบ

 

 

 

 

 

 

 

3.5 Wasted generated in operations 
ของเสียจากกิจกรรมในองค์กร

 

 

 

 

 

 

 

3.6 Business travel
การเดินทางที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขององค์กร 

 

 

 

 

 

 

 

3.7 Employee Commuting 
การเดินทางติดต่อของพนักงาน

 

 

 

 

 

 

 

3.8 Upstream leased assets 
สินทรัพย์ที่เช่ามาในส่วนต้นทาง

 

 

 

 

 

 

 

3.9Downstream transportation and distribution
การขนส่ง และการกระจายสินค้า

 

 

 

 

 

 

 

3.10 Processing of sold products
การใช้งานของผลิตภัณฑ์

 

 

 

 

 

 

 

3.11 Use of sold products
การใช้งานของผลิตภัณฑ์

 

 

 

 

 

 

 

3.12 End-of -life treatment of sold products 
การกำจัดซากผลิตภัณฑ์

 

 

 

 

 

 

 

3.13Downstream leased assets
 สินทรัพย์ที่เช่ามาหลังผ่านการผลิตขององค์กร

 

 

 

 

 

 

 

3.14 Franchises  
แฟรนไชส์

 

 

 

 

 

 

 

3.15 Investments 
 การลงทุน 

 

 

 

 

 

 

 

อ้างอิงจาก ภาคผนวก 12 ข้อแนะนำาสำาหรับกระบวนการระบุค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทางอ้อมที่มีนัยสำาคัญ (Guidance for the process of identifying significant indirect GHG emissions) (ข้อกำาหนด 5.2.5)  ข้อกำหนในการคำนวณและรายงาน คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร  ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 6 กรกฎาคม 2565

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เกณฑ์ในการประเมิน
ลำดับที่ 1  พิจารณาด้านแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก ว่าองค์กรมีปล่อยหรือไม่นี้ (source of GHG ) หรือไม่  ?

หมายเลขขอบเขต

ชื่อของขอบเขต
category

องค์กรปล่อย GHG
ในขอบเขตนี้ ใช่หรือไม่ ?

หมายเหตุ

3.1

Purchased goods and service
วัตถุดิบตั้งต้นและบริการที่ซื้อมา

ใช่

 

3.2

Capital goods
อุปกรณ์ประกอบธุรกิจ

ไม่

ไม่มีกิจกรรมในขอบเขตนี้

3.3

Fuel- and energy related activities (not include in scope 1 or scope 2)
กิจกรรมการใช้พลังงานอื่นนอกเหนือจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (ไม่รวมใน ขอบข่ายที่  1 หรือ 2)

ใช่

 

3.4

Upstream transportation and distribution 
การขนส่งจากผู้ผลิตวัตถุดิบ

ใช่

 

3.5

Wasted generated in operations 
ของเสียจากกิจกรรมในองค์กร

ใช่

 

3.6

Business travel
การเดินทางที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขององค์กร 

ใช่

 

3.7

Employee Commuting 
การเดินทางติดต่อของพนักงาน

ใช่

 

3.8

Upstream leased assets 
สินทรัพย์ที่เช่ามาในส่วนต้นทาง

ไม่

ไม่มีกิจกรรมในขอบเขตนี้

3.9

Downstream transportation and distribution
การขนส่ง และการกระจายสินค้า

ใช่

 

3.10

Processing of sold products
การใช้งานของผลิตภัณฑ์

ไม่

ไม่มีกิจกรรมในขอบเขตนี้

3.11

Use of sold products
การใช้งานของผลิตภัณฑ์

ไม่

ไม่มีกิจกรรมในขอบเขตนี้

3.12

End-of -life treatment of sold products 
การกำจัดซากผลิตภัณฑ์

ใช่

 

3.13

Downstream leased assets
สินทรัพย์ที่เช่ามาหลังผ่านการผลิตขององค์กร

ไม่

ไม่มีกิจกรรมในขอบเขตนี้

3.14

Franchises  
แฟรนไชส์

ไม่

ไม่มีกิจกรรมในขอบเขตนี้

3.15

Investments 
การลงทุน 

ไม่

ไม่มีกิจกรรมในขอบเขตนี้

ลำดับที่ 2 : การพิจารณา เกณฑ์ด้าน ปริมาณการปล่อยหรือดูดกลับก๊าซเรือนกระจก  (size) , ความสามารถในการตรวจติดตามและลดปริมาณการปล่อยหรือดูดกลับ ( Level of influence ) ,ความเสี่ยงที่องค์กรได้รับหรือโอกาสทางธุรกิจต่างๆ (Risk  & Opportunity)  
                                                             ตัวอย่างเกณฑ์การประเมิน

ประเด็นที่ต้องพิจารณา

แนวทางการประเมิน

ระดับคะแนน

น้ำหนักประเด็นที่พิจารณา

1

2

3

4

5

ปริมาณการปล่อยหรือดูดกลับก๊าซเรือนกระจก 

% GHG (เทียบกับขอบข่าย ที่มีการปล่อยขององค์กร)

< 10 %

10 % ≥-≤ 20 %

20 % > - ≤ 30 %

20 % > - ≤ 30 %

20 % > - ≤ 30 %

60 %

ความสามารถในการตรวจติดตามและลดปริมาณการปล่อยหรือดูดกลับ

การดำเนินการได้ขององค์กร ในการติดตาม หรือการดูดกลับ

น้อย

 

ปานกลาง

 

มาก

20 %

ความเสี่ยงที่องค์กรได้รับ จากการปล่อยหรือดูดกลับ GHG

ผลกระทบจากความเสี่ยง ต่อองค์กร

น้อย

 

ปานกลาง

 

มาก

10 %

โอกาสทางธุรกิจต่างๆที่องค์กร ได้รับ
จากการปล่อยหรือดูดกลับ GHG

ระดับของโอกาสทางธุรกิจต่อองค์กร

น้อย

 

ปานกลาง

 

มาก

10 %

                                                     
                                                                      ตัวอย่างการประยุกต์ใช้

หมายเลขขอบเขต

ชื่อของขอบเขต
category

ปริมาณการปล่อยหรือดูดกลับก๊าซเรือนกระจก 

ความสามารถในการตรวจติดตามและลดปริมาณการปล่อยหรือดูดกลับ

ความเสี่ยงที่องค์กรได้รับ จากการปล่อยหรือดูดกลับ GHG

โอกาสทางธุรกิจต่างๆที่องค์กร ได้รับ
จากการปล่อยหรือดูดกลับ GHG

ผลของการประเมิน

3.1

Purchased goods and service
วัตถุดิบตั้งต้นและบริการที่ซื้อมา

5

1

5

1

12

3.3

Fuel- and energy related activities (not include in scope 1 or scope 2)
กิจกรรมการใช้พลังงานอื่นนอกเหนือจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (ไม่รวมใน ขอบข่ายที่  1 หรือ 2)

1

1

1

1

4

3.4

Upstream transportation and distribution 
การขนส่งจากผู้ผลิตวัตถุดิบ

2

1

1

1

5

3.5

Wasted generated in operations 
ของเสียจากกิจกรรมในองค์กร

2

1

3

1

7

3.6

Business travel
การเดินทางที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขององค์กร 

1

1

1

1

4

3.7

Employee Commuting 
การเดินทางติดต่อของพนักงาน

2

1

1

1

5

3.9

Downstream transportation and distribution
การขนส่ง และการกระจายสินค้า

1

3

1

1

6

3.12

End-of -life treatment of sold products 
การกำจัดซากผลิตภัณฑ์

1

1

1

1

4

 

เกณฑ์การประเมินผลเพื่อพิจารณาว่า ขอบเขตการประเมิน 

  • ผลคะแนนประเมินรวม < 12 ขอบเขตดังกล่าว    ไม่นับ  รวมในขอบเขตการประเมิน
  • ผลคะแนนประเมินรวม  ≥ 12 ขอบเขตดังกล่าว    นับ    รวมในขอบเขตการประเมิน

สรุป ผลการประเมินเพื่อพิจารณา
จากการประเมินพบว่า ขอบข่าย 3.1 Purchased goods and service  วัตถุดิบตั้งต้นและบริการที่ซื้อมา มีนัยยะสำคัญ องค์กรจึงรวบการปล่อยหรือดูดกับของก๊าซเรือนกระจก

หลังจากทำทั้ง 3 ขั้นตอนแล้ว ก็จะทำให้ท่านสามารถ รู้ขอบเขตขององค์กร ว่ามีการปล่อยหรือดูดกลับของ ก๊าซเรือนกระจกที่ขั้นตอนและกิจกรรมใดบ้าง  หลังจากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนที่  2 กำหนดแนวทางในการคำนวณ/ประเมิน ซึ่งมีมีแนวทางการดำเนินการ